New S-Curve ด้าน Healthcare ที่กำลังมาถึง
image

New S-Curve ด้าน Healthcare ที่กำลังมาถึง

eHealth เป็นเทรนด์ที่โตแบบก้าวกระโดด โดยมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นหลักตลอดช่วงระยะสองปีที่ผ่านมา ที่ทำให้คนต้องรักษาระยะห่าง (Social Distancing) เป็นการผลักดันให้ eHealth ที่มีการผสมผสานเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Internet of Things (IoT) เข้าไปมีบทบาทสำคัญกับระบบสาธารณสุข ในการให้บริการด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ช่วยให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างปกติปลอดภัย

Ajay Rane รองประธานฝ่าย Global Ecosystem Development ของ Sigfox เคยกล่าวไว้ว่า eHealth มีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดจะสูงถึง 2.34 แสนล้านเหรียญฯ ในปี 2566 โดยมีอัตราเติบโตที่ 12% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2561

ตัวเลขที่ Ajay อ้างถึงนั้น มาจากงานวิจัยทางการตลาดที่ถูกปล่อยออกมาก่อนที่โลกจะรู้จักโควิด-19 ซึ่งหลังจากเกิดการแพร่ระบาดแล้ว สถาบันหลายแห่งต่างวิเคราะห์ว่าตลาด eHealth จะเติบโตได้ถึง 20-25% ต่อปี

image

IoT for eHealth

อย่างที่ผมเกริ่นในเบื้องต้นว่า IoT eHealth ถือเป็นคำตอบหนึ่งในการรับมือกับโควิด-19 เนื่องจากหนึ่งในจุดแข็งของ IoT นั่นคือ ความสามารถที่โดดเด่นด้านการรับส่งข้อมูลจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสถียร แม้จะใช้ในบริเวณที่มีประชากรหนาแน่น

ผมขอยกตัวอย่าง Accuhealth บริษัทที่ทำธุรกิจด้าน Healthcare Technology สัญชาติอเมริกา ร่วมกับ Telli Health ผู้พัฒนา IoT จากฟลอริด้า พัฒนาเครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดโดยสื่อสารผ่านโครงข่าย 0G ของ Sigfox

เมื่อ Telli Health พัฒนาอุปกรณ์นี้สำเร็จ Accuhealth เป็นลูกค้ารายแรกที่สั่งซื้ออุปกรณ์อัจฉริยะดังกล่าวจำนวน 5,000 ชิ้น และทดลองใช้วัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดกับผู้ป่วยโควิด-19 ในหลายเมืองทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึงชนบทที่ห่างไกล

ผลที่ได้ คือ สตีเฟน แซมสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Accuhealth พอใจกับอุปกรณ์นี้มาก

สตีเฟนอธิบายว่า ด้วยข้อจำกัดบางอย่างทำให้บลูทูธไม่ตอบโจทย์สำหรับภารกิจการเฝ้าดูคนป่วยจากระยะไกล ต่างจากการเชื่อมต่อผ่านโครงข่าย IoT ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั่วสหรัฐอเมริกา จึงสามารถ monitor ผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งราคาต้นทุนของอุปกรณ์ที่ต่ำ ใช้พลังงานน้อย ทำให้ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ

นอกจากนี้ ยังมีการนำ IoT มาใช้กับเรื่อง Supply Chain ในการติดตามสถานการณ์การขนส่งยา เวชภัณฑ์ หรือแม้แต่วัคซีนโควิด-19 ที่ต้องมีการควบคุมอุณหภูมิตลอดเวลา โดยอุปกรณ์จะทำหน้าที่ตรวจจับค่าอุณหภูมิและความชื้น ซึ่งหากเกิดความผิดปกติขึ้น ผู้ใช้งานจะสามารถได้รับการแจ้งเตือนได้อย่างทันท่วงที

image

อย่างไรก็ตาม ตลาด eHealth ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ด้านการแพทย์เท่านั้น ลองมาดูตลาด eHealth ที่เป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์กันบ้างครับ

ย้อนกลับไปประมาณ 6 ปีก่อนหน้านี้ Ralph Lauren แบรนด์แฟชั่นสัญชาติอเมริกา ผลิตเสื้อสำหรับออกกำลังกาย เป็นผ้าที่ออกแบบมาพิเศษให้แนบกับผิวของผู้สวมใส่ และมีกล่องอัจฉริยะติดไว้ที่แถบชายโครงเสื้อของผู้สวมใส่ ซึ่งกล่องตัวนี้มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถเก็บสถิติและอ่านค่าต่างๆ ได้ เช่น จำนวนก้าว อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ และการเผาผลาญพลังงาน

Ralph Lauren เปิดตัวเสื้อ biometric รุ่นนี้ครั้งแรกในการแข่งขัน US Open Tennis Tournament โดยให้เด็กเก็บลูกเทนนิสใส่ รวมถึง Marcos Giron นักเทนนิสชาวอเมริกันชื่อดังก็ใส่เสื้อรุ่นนี้ในการฝึกซ้อมด้วย

หลังจากที่ Ralph Lauren ออกสินค้านวัตกรรมตัวแรก แบรนด์ได้พัฒนาสินค้าอีกหลายซีรียส์ที่ผนวกเทคโนโลยี IoT ออกสู่ตลาด ขณะที่ผู้เล่นอื่นในแวดวงแฟชั่น ต่างก็หันมาพัฒนาสินค้าของตัวเองบนเทคโนโลยี IoT เช่นเดียวกัน อาทิ Levi’s หรือ Tommy Hilfiger ที่ฝังชิปไว้ในสินค้า โดยมีฟังก์ชั่นการทำงานต่างกันออกไป บางรุ่นเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือได้ บางรุ่นใช้เก็บข้อมูลลูกค้าโดยแลกกับแต้มสะสมรางวัล

เริ่มเห็นภาพกว้างแล้วใช่ไหมครับว่าทำไมตลาด eHealth กับ IoT ถึงเติบโตแบบฉุดไม่อยู่ในช่วง 5-10 ปีนี้ สำหรับประเทศไทยที่มีชื่อเสียงด้าน Healthcare หากเรานำเอาเทคโนโลยี IoT เข้ามาพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ในยุค Next Normal ผมเชื่อว่า โอกาสที่ประเทศไทยจะได้นั้นมีมูลค่ามหาศาล และผมไม่อยากให้เราพลาดโอกาสนี้จริงๆ ครับ

Reference:

https://www.iotm2mcouncil.org/iot-library/news/connected-health-news/accuhealth-and-telli-health-use-sigfox-for-spo2-meter/

เกี่ยวกับ Things on Net

บริษัท ติงส์ ออน เน็ต จำกัด (TON) ผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก ให้บริการครอบคลุมการให้คำปรึกษา การกำหนดกลยุทธ์ การวิเคราะห์ข้อมูลด้านไอโอที รองรับการใช้งานอุปกรณ์และบริการ Internet of Things อย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มขีดความสามารถให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม ทุกธุรกิจตั้งแต่ B2B จนถึง B2C โดยยึดหลักการสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งการใช้ชีวิตของคนในสังคม และสิ่งแวดล้อม ติงส์ ออน เน็ต เป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกฟอกส์ (Sigfox) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) โดยมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 72 ประเทศทั่วโลก

ติงส์ ออน เน็ต ให้บริการทุกภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ด้วยโซลูชันและอุปกรณ์ไอโอทีคุณภาพสูงพร้อมใช้งาน อาทิ Smart City & Smart Building ระบบเมืองอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย, Smart Farming การเกษตรอัจฉริยะ, Asset Tracking Management ระบบการติดตามสถานะสินทรัพย์ต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการจัดเก็บและขนย้าย, Safety and Environment System ระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศและสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่องานด้านความปลอดภัย ป้องกันภัยพิบัติ รวมถึงระบบ SOS ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน, Energy Saving ช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า, Facility Management การบริการ การจัดการระบบสาธารณูปโภค, Supply Chain / Cold Chain Management ระบบการบริหารจัดการการขนส่ง / ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้นสำหรับภาคการเกษตร ปศุสัตว์ ตลอดจนคลังสินค้า ตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็ง ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความสดใหม่ ช่วยลดต้นทุนสูงสุดได้
วันนี้ Things on Net พร้อมให้บริการในหลายพื้นที่สำคัญเชิงธุรกิจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 490 บาท/เดือน สนใจติดต่อ 02-091-1230

Things on Net ผู้นำ IoT Solutions ครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก #ThingsonNet #TON #IoT #IoTSolutions #0GNetwork #Technology #Sigfox


สอบถามข้อมูล IoT Solutions เพิ่มเติมได้ที่ Contact Center : 02-091-1230
Line ID : https://lin.ee/gAoJGrh Website : https://thingsonnet.net Facebook : www.facebook.com/ThingsonNet LinkedIn : www.linkedin.com/company/things-on-net YouTube : www.youtube.com/channel/UCUeo3GAjQdN_0FEUScln0kA