ขนของสดแบบไม่เสี่ยง IoT สำหรับ Cold Chain Logistics
image

ขนของสดแบบไม่เสี่ยง IoT สำหรับ Cold Chain Logistics

เมื่อเร็ว ๆ นี้ Million Insights ได้ตีพิมพ์รายงานฉบับหนึ่ง ระบุว่าตลาด Cold Chain โลกจะเติบโตเฉลี่ย 14.8% ตั้งแต่ปี 2021-2028 ทำให้มูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นจาก 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2018 เป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในอีกสิบปีข้างหน้า แน่นอนว่าสินค้าหลัก ๆ หนีไม่พ้นอาหารสด อาหารแปรรูป ผลิตภัณฑ์นม รวมถึงยาและเวชภัณฑ์ รายงานฉบับนี้ยังบอกอีกว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาด Cold Chain เติบโตขึ้นมากนั้น เป็นเพราะการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาประสิทธิภาพ

วันนี้ผมเลยอยากเล่าให้ฟังถึงความสำคัญของ Internet of Things (IoT) ว่ามีบทบาทสำคัญอย่างไรในธุรกิจตลาด Cold Chain นี้

image

ช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีงานสัมมนา ‘Cold Chain Logistics Development – A Critical Imperative for Nigeria’ ในประเทศไนจีเรีย ซึ่งผู้บรรยายหลักที่เป็นประธานของ Governing Council of the Nigerian Institute of Transport Technology ได้อธิบายถึงสถานการณ์ในประเทศไนจีเรียว่าเป็นประเทศเกษตรกรรมที่ยังพึ่งแรงงานเป็นหลัก ประกอบกับความด้อยพัฒนาในเรื่องการขนส่ง ทำให้ต้องสูญเสียผลผลิตกว่า 1.5 ล้านเมตริกตันในแต่ละปี หรือประมาณ 40-50% เกิดการเน่าเสียระหว่างการขนส่งผักและผลไม้สดเหล่านั้น

ท่านประธานยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า ถ้าไนจีเรียสามารถพัฒนา Cold Chain Logistics ได้ น่าจะช่วยลดความสูญเสียได้ถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับคนในประเทศนี้

ทำไมท่านประธานถึงกล่าวเช่นนี้ ลองหลับตานึกตามผมนะครับ ถ้ามะเขือเทศที่ปลูกมากทางตอนเหนือของไนจีเรีย ต้องถูกส่งไปขายในตลาดหลักที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ พอถึงปลายทางต้องมาลุ้นว่า จะเหลือมะเขือเทศในสภาพที่ยังขายได้อยู่ถึงครึ่งไหม แต่ถ้าไนจีเรียใช้ IoT Solutions เข้ามาแก้ปัญหา ติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจวัดระดับอุณหภูมิและความชื้น เพื่อควบคุมปัจจัยทั้งสองให้อยู่ในระดับที่รักษาความสดของมะเขือเทศไว้ได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง จะสามารถช่วยลดความสูญเสียได้มากขนาดไหน

image

สำหรับประเทศไทยได้วางแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2560-2564) ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold chain logistics) เพื่อยกระดับการบริหารจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานของภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมให้ได้มาตรฐาน รวมถึงพัฒนาระบบโซ่ความเย็น (Cold chain system) เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งกระบวนการ ช่วยลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่การผลิต และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

ที่ผ่านมาผู้ให้บริการโซลูชัน Cold chain logistics ต่างผลักดันให้ผู้ประกอบการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้มากขึ้น ซึ่ง Things on Net ในฐานะหนึ่งในผู้นำบริการและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับไอโอทีโซลูชันและเซ็นเซอร์อัจฉริยะก็ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ IoT Solutions ตรวจจับอุณหภูมิและความชื้น ร่วมกับการติดตั้งอุปกรณ์เซ็นเซอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Cold Chain Logistics และลดความเสียหายของสินค้าที่จะเกิดขึ้นระหว่างการขนส่ง

โซลูชัน Cold chain logistics จะทำงานผสานกับเซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ทำหน้าที่ในการแจ้งเตือน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รถขนส่งสามารถล็อกอุณหภูมิในห้องเย็นให้เหมาะสมกับประเภทของสินค้าและคงที่จากต้นทางถึงปลายทางแล้ว ยังช่วยลดความเสียหายของสินค้า ช่วยแก้ปัญหา Food Waste อันเกิดจากกระบวนการขนส่งที่ผิดพลาดและขาดการควบคุมอุณหภูมิที่ดีจนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สินค้าเกิดการเน่าเสียหรือเสื่อมคุณภาพก่อนถึงมือผู้รับได้อีกด้วย

ดังนั้น นอกจากการเลือกใช้โซลูชันที่ดีแล้ว อีกส่วนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ก็คือเซ็นเซอร์ที่ทำหน้าที่แจ้งเตือน ซึ่งหนึ่งในเซ็นเซอร์สมองกลที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับระดับสากล ได้แก่ Temphawk เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่สามารถตรวจจับอุณหภูมิตั้งแต่ -40 องศา ถึง 125 องศา ตรวจวัดความชื้นได้ตั้งแต่ระดับ 0-100% มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูง บอกค่าได้อย่างละเอียดในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน มีระบบจัดเก็บข้อมูลต่างๆ อย่างปลอดภัย อีกทั้งช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพัฒนาและต่อยอดการให้บริการต่อไปในอนาคตได้

image

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของ IoT ที่โดดเด่นคือ ช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อ เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ยืดหยุ่น ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการวางแผนการทำงาน และลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

ผมในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการและให้คำปรึกษาด้านไอโอทีโซลูชันของไทยจึงภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมผลักดันและสนับสนุนการนำ IoT Solutions มาช่วยแก้ปัญหาปัญหาระดับโลกในเรื่อง Food Waste และลดการขาดแคลนอาหารของผู้คนอีกนับล้านบนโลกนี้ครับ

เกี่ยวกับ Things on Net

ปัจจุบัน Things on Net เป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกฟอกส์ (Sigfox) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) โดยมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ 72 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการเรื่อง Asset Tracking ซึ่งมีอุปกรณ์พร้อมใช้งานในการติดตามสถานะสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อช่วยให้ทราบสถานะในการจัดเก็บและขนย้าย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ฯลฯ

นอกจากนี้ Things on Net ยังเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีระดับโลก และอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานที่ครอบคลุมทุกธุรกิจ อาทิ Smart City & Smart Building ระบบเมืองอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย, Cold Chain Management ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้นสำหรับตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งในอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความเย็นที่เหมาะสม ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่ายจนถึงมือผู้บริโภค, ระบบ Safety and Environmental สามารถตรวจวัดอุณหภูมิและคุณภาพอากาศเพื่องานด้านความปลอดภัยในการบริหารงาน Facility management และระบบ Energy saving ผู้ช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
วันนี้ Things on Net พร้อมให้บริการในหลายพื้นที่สำคัญเชิงธุรกิจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 490 บาท/เดือน สนใจติดต่อ 02-091-1230

Things on Net ผู้นำ IoT Solutions ครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก #ThingsonNet #TON #IoT #IoTSolutions #0GNetwork #Technology #Sigfox


สอบถามข้อมูล IoT Solutions เพิ่มเติมได้ที่ Contact Center : 02-091-1230
Line ID : https://lin.ee/gAoJGrh Website : https://thingsonnet.net Facebook : www.facebook.com/ThingsonNet LinkedIn : www.linkedin.com/company/things-on-net YouTube : www.youtube.com/channel/UCUeo3GAjQdN_0FEUScln0kA