เพิ่มประสิทธิภาพตู้แช่ยาและวัคซีน ด้วย IoT Solution
เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บยาและวัคซีน ด้วยระบบการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ลดความเสี่ยงที่ยาและวัคซีนเสียหายหรือเสื่อมคุณภาพ ลดกำลังคนในการดูแลรักษา พิเศษ!! ทดลองใช้ฟรี 90 วันย้อนกลับไปช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ประเทศไทยได้รับวัคซีน Covid-19 เป็นครั้งแรก จากสองผู้ผลิต Sinovac และ AstraZeneca จำนวน 317,000 โดส แม้จะเป็นล็อตเล็ก แต่นับว่า เป็นวันที่จุดประกายแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ ผู้ซึ่งมีความหวังว่าทุกอย่าง จะกลับฟื้นคืนสู่ภาวะปกติหลังจากคนจำนวนมากได้รับวัคซีน
เวลานี้คงไม่มีใครปฎิเสธว่าวัคซีน Covid-19 มีค่ายิ่งกว่าทอง เพราะทุกประเทศทั่วโลก มีความต้องการสูง ยิ่งฉีดวัคซีนได้เร็วและได้มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วขึ้นเท่านั้น ดังนั้นวัคซีนทุกโดสจึงต้องมีกระบวนการต่างๆ เพื่อคงประสิทธิภาพของวัคซีนไว้ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง ระหว่างประเทศ การกระจายวัคซีนไปตามโรงพยาบาลในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จนกระทั่งคนได้รับ การฉีดวัคซีน
เมื่อเป็นเช่นนี้ นอกจากจะสั่งซื้อวัคซีนให้ได้แล้ว อีกหนึ่งความท้าทายคือ การขนส่งและจัดเก็บ วัคซีนระหว่างทาง เพราะวัคซีนของผู้ผลิตแต่ละรายจะมีความอ่อนไหวต่ออุณหภูมิและความชื้นแตกต่างกัน หากวัคซีนอยู่ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม ประสิทธิภาพก็จะลดลงหรือเสียไป เช่น วัคซีนของ AstraZeneca และ Sinovac ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ 2-8° C ในขณะที่วัคซีนจากค่ายอื่นต้องเก็บไว้ที่อุณหภูมิติดลบ เป็นต้น

จาก pain point จุดนี้เองที่เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เข้ามามีบทบาทสำคัญ เพราะตัวเซ็นเซอร์ IoT สามารถนำมาประยุกต์เข้ากับตู้แช่วัคซีน เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิและตัวบ่งชี้ คุณภาพอื่นๆ รวมถึงการตั้งค่าปรับแต่งระบบให้เข้ากับข้อกำหนดของวัคซีนแต่ละบริษัทได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ระบบสามารถตรวจสอบอุณหภูมิและปัจจัยต่างๆ จากระยะไกลภายในรถขนส่ง และสามารถแจ้งคนขับรถขนส่งหรือพนักงานคลังสินค้าให้ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น หากเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าอุณหภูมิในรถขนส่งสูงเกินค่าที่กำหนด บริษัทสามารถติดต่อ กับคนขับรถเพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม หรือเร่งการเดินทางให้ถึงคลังสินค้าก่อนที่จะมีผลกระทบ ต่อประสิทธิภาพของวัคซีน เป็นต้น

นอกจากการขนส่งแล้ว การจัดเก็บวัคซีนก็เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อวัคซีนมาถึงต้องผ่านกระบวนการ ตรวจสอบต่างๆ กว่าจะถึงโรงพยาบาลปลายทาง ก็อาจจะเสียเวลาอีกหลายวัน โรงพยาบาลส่วนมาก อาจจะมีตู้แช่วัคซีน แต่การตรวจเช็คอุณหภูมิและค่าต่างๆ ยังใช้บุคลากรในการอ่านค่าและจดบันทึกอยู่ ข้อเสียที่เห็นได้ชัดคือ ไม่สามารถที่จะตรวจเช็คได้ตลอดเวลา ต่างจากเทคโนโลยี IoT ที่สามารถอ่านค่า ได้ตลอดเวลาและส่งข้อมูลออกมาแจ้งเตือนได้ทันที จึงตอบโจทย์และช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อมีประโยชน์มากขนาดนี้ คำถามต่อมาคือ ต้องลงทุนสูงไหม การติดตั้งยากแค่ไหน Things on Net ผู้นำด้าน IoT Solutions และเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายซิกส์ฟอกส์รายเดียวของประเทศไทย ตอบให้เลยว่า การลงทุนไม่ถือว่าสูงเลยหากเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ หรือเทียบกับความเสียหาย ที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนการติดตั้งอุปกรณ์นั้นง่ายมาก เพียงนำตัวอุปกรณ์หรือเซ็นเซอร์ไปติดไว้ที่ตู้แช่เย็น ที่ใช้เก็บวัคซีน เพียงเท่านี้ระบบก็จะเริ่มทำการตรวจวัดค่าว่าอยู่ในช่วงที่ต้องการหรือไม่ อย่างในกรณีของ AstraZeneca และ Sinovac คืออยู่ระหว่าง 2-8 องศาเซลเซียส จากนั้นเซ็นเซอร์จะส่งข้อมูลออกมา ยังจอแสดงผล
หากมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไปที่ผู้ที่ดูแลหน้างานและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงแจ้งที่ระบบ Dashboard ส่วนกลางซึ่งเชื่อมโยงข้อมูลจากอุปกรณ์ทุกชิ้นเพื่อให้สามารถตรวจสอบ ได้ทันทีจากส่วนกลาง
สำหรับโครงข่ายซิกส์ฟอกส์ เน้นการสื่อสารไร้สายระยะไกลแต่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ จึงได้เปรียบ ในแง่ที่ว่าตัวอุปกรณ์นั้นกินพลังงานน้อยมาก แบตเตอรี่จึงสามารถ ใช้งานได้นานเป็นปีๆ ไม่ต้องเปลี่ยนหรือชาร์จบ่อยๆ

เราจะเห็นได้ว่าหากไม่มีเซ็นเซอร์ IoT เข้ามา กระบวนการที่จะจัดส่งวัคซีนโดยคงประสิทธิภาพไว้ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงผู้รับนั้นจะทำได้ยากขึ้นมาก ดังนั้น โรงพยาบาลต่างๆ ที่เตรียมจะให้บริการวัคซีน Covid-19 จึงต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง และไม่ลังเลที่จะเลือกลงทุนในเทคโนโลยี IoT ที่ให้ผลลัพธ์ คุ้มค่าที่สุด
เกี่ยวกับ Things on Net
ปัจจุบัน Things on Net ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกส์ ฟอกส์ (Sigfox) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) โดยมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ 72 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการเรื่อง Asset Tracking ซึ่งมีอุปกรณ์พร้อมใช้งานในการติดตามสถานะสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อช่วยให้ทราบสถานะในการจัดเก็บและขนย้าย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ฯลฯ
นอกจากนี้ Things on Net ยังเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีระดับโลก และอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานที่ครอบคลุมทุกธุรกิจ อาทิ Smart City & Smart Building ระบบเมืองอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย, Cold Chain Management ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้นสำหรับตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งในอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความเย็นที่เหมาะสม ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่ายจนถึงมือผู้บริโภค, ระบบ Safety and Environmental สามารถตรวจวัดอุณหภูมิและคุณภาพอากาศเพื่องานด้านความปลอดภัยในการบริหารงาน Facility management และระบบ Energy saving ผู้ช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
วันนี้ Things on Net พร้อมให้บริการในหลายพื้นที่สำคัญเชิงธุรกิจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 490 บาท/เดือน สนใจติดต่อ 02-091-1230
Things on Net ผู้นำ IoT Solutions ครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก #ThingsonNet #TON #IoT #IoTSolutions #0GNetwork #Technology #Sigfox
สอบถามข้อมูล IoT Solutions เพิ่มเติมได้ที่
Contact Center : 02-091-1230
Line ID : https://lin.ee/gAoJGrh Website : https://thingsonnet.net Facebook : www.facebook.com/ThingsonNet LinkedIn : www.linkedin.com/company/things-on-net YouTube : www.youtube.com/channel/UCUeo3GAjQdN_0FEUScln0kA
ข้อมูลอ้างอิง - https://www.med.cmu.ac.th/covid19/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99/3455/