โลกของการขนส่งที่ต้องขับเคลื่อนด้วย 0G
การรับส่งข้อมูลระยะไกลนับเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ในโลกของการขนส่งข้ามทวีป บริษัทขนส่งต่างก็คิดว่าทำอย่างไรถึงจะสามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพจากทั่วทุกสารทิศ ตั้งแต่ 5G ถือกำเนิดขึ้นมา ก็เกิดการปฏิวัติในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น e-commerce หรือการสร้างเมืองอัจฉริยะ ที่นำเอา Artificial Intelligence (AI) Machine Learning และ Big Data เข้ามาพัฒนาระบบต่างๆ เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จนแทบทุกสิ่งรอบตัวล้วนผูกติดกับเทคโนโลยีการสื่อสาร
แม้ว่า 5G จะเป็นอีกหนึ่งความหวังในการพัฒนาภาคขนส่ง แต่เอาเข้าจริง วัตถุประสงค์หลักในการใช้งาน เป็นเพียงการติดตามสถานะสิ่งของ ที่อาจจะวิวัฒนาการให้รู้ว่าของที่อยู่ในกล่องคืออะไร ต้องการข้อมูลในการระบุพิกัดแน่ชัดเท่านั้น จึงเกิดคำถามว่า 5G นั้นตอบโจทย์ภาคการขนส่งแน่หรือ
แล้ว 0G คืออะไร
0G คือเครือข่ายที่เชื่อมต่อด้วยแบนด์วิดท์ (Bandwidth) หรือคลื่นในการรับส่งข้อมูลของอินเตอร์เน็ตที่ต่ำ อธิบายง่ายๆ คือ เครือข่ายที่อาศัยคลื่นความถี่วิทยุในการสื่อสารระยะทางไกลๆ ได้อย่างรวดเร็ว
หากพิจารณาจากความต้องการของภาคขนส่งที่ต้องการพัฒนาระบบการติดตามสถานะสินค้าระหว่างการขนส่ง เพื่อทำให้กระบวนการขนส่งมีประสิทธิภาพสูงสุด การเก็บข้อมูลในการระบุพิกัดเป็นช่วงๆ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ Data Pipeline ขนาดใหญ่ และไม่ต้องเก็บข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) เพื่อลดภาระการจัดเก็บของหน่วยความจำ สำหรับ Flow Monitoring ในภาคขนส่ง
นอกจากนี้ การเก็บข้อมูลจำนวนมากนั้นทำให้สูญเสียประสิทธิภาพบางส่วน เนื่องจากต้องคำนวณข้อมูลจำนวนมากที่ไม่เกี่ยวข้อง และเสียเวลากับการค้นหาข้อมูลที่ต้องการ ในทางกลับกัน หากใช้เครือข่ายที่แบนด์วิดท์ต่ำ จะทำให้ส่งข้อมูลระยะไกลได้มากขึ้นในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาที่เกิดขึ้นจริง จึงเหมาะที่จะประยุกต์ใช้กับ Supply Chain มากกว่า
อ้างอิงที่มา : i-scoop.eu
Big Data 5G กับ 0G
หากมองในแง่การลงทุนของการใช้เทคโนโลยี IoT บนเครือข่าย 5G ผู้ประกอบการจำเป็นต้องลงทุนกับระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์ต่างๆ ค่อนข้างสูง แบตเตอรี่ที่ใช้มีขนาดใหญ่ แม้สัญญาณจะแรงกว่า แต่ต้นทุนก็สูงกว่า 0G มาก หากเทียบกันแล้ว การลงทุน 5G สำหรับการติดตามสถานะสินค้าในลักษณะการกำหนดเป็นช่วงเวลาทั้งในประเทศและนอกประเทศ เลยค่อนข้างใช้งบลงทุนที่สูง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนที่จะได้รับ ในขณะที่เครือข่าย 0G กลับเป็นการลงทุน “น้อยแต่ได้มาก”
เพราะ 0G ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่า และประสิทธิภาพในการติดตามสถานะสินค้าก็ดีกว่า สามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอด มีความยืดหยุ่น และสามารถเก็บข้อมูลที่ต้องการอย่างมีคุณภาพ ด้วยต้นทุนที่น้อยที่สุด
ข้อดีของ 0G รวมถึงการทำให้ tracking solutions ง่ายและเร็ว การติดตั้งอุปกรณ์ไม่ซับซ้อน มีโครงข่ายที่เสถียรครอบคลุมทั่วโลก มีความปลอดภัยมาก ระบบยากที่จะถูกโจมตี เพราะเป็นการสื่อสารทางเดียวระหว่างอุปกรณ์กับสถานีกลาง หลังจากส่งข้อมูลแล้ว อุปกรณ์จะอยู่ใน Sleep Mode ทำให้แฮกเกอร์มีช่องทางในการเจาะระบบและควบคุมเครือข่ายได้ยากมาก
หลักการทำงานของเครือข่าย 0G ของ Sigfox
• มีเครือข่ายครอบคลุมมากกว่า 72 ประเทศทั่วโลก • ใช้พลังงานน้อย แบตเตอรี่จึงใช้งานได้นาน โดยไม่ต้องมีการบำรุงรักษาบ่อยๆ • ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้าง รวมถึงภายในอาคาร สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธ จีพีเอส และ WiFi • ป้องกันการแทรกสัญญาณ และมีระบบรักษาความปลอดภัยขั้นสูง • ลงทุนต่ำ ติดตั้งง่าย ใช้งานง่าย • เป็น Cognitive Network เหมาะกับ AI และ Blockchain
Things on Net พร้อมให้บริการ IoT Solutions ในประเทศไทยพร้อมด้วยเครือข่ายสัญญาณคุณภาพมาตรฐานระดับสากลจาก Sigfox เทคโนโลยีการเชื่อมต่อแบบ LPWAN ที่มีเครือข่ายครอบคลุมมากกว่า 72 ประเทศทั่วโลก สามารถปลดล็อกปัญหาต่างๆ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร ช่วยเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้ธุรกิจของคุณเติบโตยิ่งขึ้นสามารถแข่งขันในตลาดระดับสากลได้
อ้างอิงที่มา : coldchainplatform.com
เกี่ยวกับ Things on Net
ปัจจุบัน Things on Net ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญและผู้นำไอโอทีโซลูชันครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้ถือสิทธิ์การให้บริการโครงข่ายซิกส์ ฟอกส์ (Sigfox) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายระยะไกลที่ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ (Low Power Wide Area Network: LPWAN) โดยมีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ 72 ประเทศทั่วโลก พร้อมให้บริการเรื่อง Asset Tracking ซึ่งมีอุปกรณ์พร้อมใช้งานในการติดตามสถานะสินทรัพย์ต่างๆ เพื่อช่วยให้ทราบสถานะในการจัดเก็บและขนย้าย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ฯลฯ
นอกจากนี้ Things on Net ยังเป็นผู้ให้บริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีระดับโลก และอุปกรณ์ที่พร้อมใช้งานที่ครอบคลุมทุกธุรกิจ อาทิ Smart City & Smart Building ระบบเมืองอัจฉริยะและอาคารอัจฉริยะที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย, Cold Chain Management ระบบตรวจวัดอุณหภูมิ ความชื้นสำหรับตู้แช่สินค้า ทั้งแบบแช่เย็นและแช่แข็งในอุตสาหกรรมค้าปลีก หรือธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้สินค้าคงคุณภาพความเย็นที่เหมาะสม ตั้งแต่การผลิต การขนส่ง และการวางจำหน่ายจนถึงมือผู้บริโภค, ระบบ Safety and Environmental สามารถตรวจวัดอุณหภูมิและคุณภาพอากาศเพื่องานด้านความปลอดภัยในการบริหารงาน Facility management และระบบ Energy saving ผู้ช่วยบริหารจัดการการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
วันนี้ Things on Net พร้อมให้บริการในหลายพื้นที่สำคัญเชิงธุรกิจ ในราคาเริ่มต้นเพียง 490 บาท/เดือน สนใจติดต่อ 02-091-1230
Things on Net ผู้นำ IoT Solutions ครบวงจรด้วยโครงข่ายเทคโนโลยีสื่อสารชั้นนำระดับโลก #ThingsonNet #TON #IoT #IoTSolutions #0GNetwork #Technology #Sigfox
สอบถามข้อมูล IoT Solutions เพิ่มเติมได้ที่
Contact Center : 02-091-1230
Line ID : https://lin.ee/gAoJGrh
Website : https://thingsonnet.net
Facebook : www.facebook.com/ThingsonNet
LinkedIn : www.linkedin.com/company/things-on-net
YouTube : www.youtube.com/channel/UCUeo3GAjQdN_0FEUScln0kA